โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดได้หลายจุดที่มีปัญหา ซึ่งฟิลเลอร์ 1 CC เป็นปริมาณเริ่มต้นสำหรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ปริมาณนี้เพียงพอในจุดบริเวณที่มีปัญหา แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาบนใบหน้าของแต่ละบุคคล เช่น มีปัญหาขมับตอบ ใต้ตาลึก คางสั้น ถ้ามีปัญหาเยอะปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ก็จะเยอะตามไปด้วย
แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าปัญหาที่เรากังวลนี้ต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ CC เพราะก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์แพทย์จะประเมินให้ว่าในตำแหน่งที่คนไข้ต้องการฉีด ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไรจึงจะเหมาะสมให้ดูสวยงามธรรมชาติและเหมาะกับใบหน้าของคนไข้เป็นอย่างดี โดยจุดที่สามารถเริ่มฉีดฟิลเลอร์ 1 CC ได้มีดังนี้
- หน้าผาก หากต้องการปรับหน้าผากให้นูนสวย เหมาะกับโหงวเฮ้ง หมอแนะนำอยู่ที่ 3 – 5 CC ไม่แนะนำไม่ให้เกิน 5 CC ในแต่ละครั้งที่เติมเพราะอาจจะไปกดทับเส้นเนื้อบริเวณหน้าผากทำให้รวบดวงตาบวมได้
- ขมับ ข้างละ 2 CC ขึ้นอยู่กับความลึกของขมับคนไข้ว่าขมับยุบ ขมับตอบ มากขนาดไหน หากไม่ลึกมาก 1 CC ก็เพียงพอที่จะเติบให้ขมับตอบดูเต็มขึ้นได้
- ใต้ตา มีแบ่งฉีดเป็น 2 จุด คือใต้ตาชั้นลึกกับใต้ตาชั้นตื้นเพื่อให้ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติ โดยใต้ตาชั้นลึกเริ่มต้นที่ 1 – 2 CC ต่อข้าง ส่วนใต้ตาชั้นตื้นเริ่มต้นที่ 0.5 – 1 CC ต่อข้าง
- แก้มตอบ เริ่มต้นที่ 2– 4 CC ขึ้นอยู่กับความตอบของแก้มคนไข้ หากแก้มตอบเยอะก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะ
- ร่องแก้ม เริ่มต้นที่ข้างละ 1 CC หากมีร่องแก้มลึกใช้ข้างละ 2 CC แต่ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้ดูไม่ธรรมชาติ
- ร่องใต้มุมปาก เริ่มต้นที่ 1 – 2 CC หากฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องใต้มุมปากกมากเกินไปจะดูหนาและเป็นก้อนได้
- คาง เริ่มต้นที่ 1 CC แต่หากมีคางสั้นมาก หรือคางบางทรงที่คนไข้ต้องการอาจจะใช้ 2 – 3 CC ขึ้นอยู่กับขนาดความยาวคางของคนไข้
- ปาก เริ่มต้นที่ 1 CC ก็สามารถปรับรูปทรงปากได้แล้ว แต่ถ้าอยากให้ปากดูอวบอิ่มจะเป็น 2 CC ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับรูปทรงปากปัจจุบันของคนไข้ด้วยนะคะ
ทั้งนี้ปริมาณก็ขึ้นอยู่กับปัญหาบนใบหน้าของคนไข้ของแต่ละคนเช่นกันค่า
ถ้าใครอยากรู้ว่าแบบชัดๆ ว่าเราควรฉีดจุดไหน ปริมาณเท่าไหร่ ก็ทักเฟสแอดไลน์มาคุยกันได้เลยค่า
นัดคุณหมอหรือสอบถามเพิ่มเติม คลิกเลย !!